คนไทยจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่า ทำไมร.๕ ทรงทิ้งนครวัด ทะเลสาบ และพื้นที่ ๕๐,๐๐๐ ตร.กม.เพื่อแลกกับเมืองตราด ที่มีพื้นที่เพียง ๒,๘๑๙ ตร.กม.เท่านั้น ชาวไทยทุกคนภูมิใจกันว่า ประเทศของเราไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก แต่ประวัติศาสตร์ก็ต้องจารึกไว้ว่าพี่น้องร่วมชาติของเราในจังหวัดจันทบุรีต้องตกอยู่ใต้การยึดครองของฝรั่งเศสถึง ๑๐ ปี ส่วนจังหวัดตราดยิ่งกว่านั้น ต้องทำพิธีมอบเมืองให้ตกไปรวมอยู่ในอินโดจีนของฝรั่งเศส เป็นเวลา๒ ปี ๖ เดือน รัชกาลที่ ๕ จึงทรงตัดสินพระราชหฤทัยสละนครวัด สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และทะเลสาปเสียมราฐ อันกว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์เลี้ยงคนได้ทั้งอินโดจีน ซึ่งรวมอยู่ในเมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ มีพื้นที่ถึง ๕๐,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร เพื่อแลกกับเมืองตราด ซึ่งมีพื้นที่เพียง ๒,๘๑๙ ตารางกิโลเมตรคืนมา ก็เพราะทรงเห็นว่าสิ่งมีค่าเหนือกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด ก็คือ “คน” ทรงรักคนไทยยิ่งกว่าพื้นที่กว้างใหญ่แต่ผู้คนพื้นเมืองเป็นชาวเขมร พื้นที่ซึ่งทรงสละไปนั้นประชาชนที่อยู่เป็นชาวเขมร แต่ประชาชนในจังหวัดตราดเป็นคนไทย ในวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๔๔๗ ที่เราถูกบังคับให้ทำพิธีมอบเมืองตราดให้แก่ฝรั่งเศส นอกจากยื่นเอกสารต่อกันแล้ว มีการชักธงช้างลงจากยอดเสาหน้าศาลากลางจังหวัด แล้วชักธงชาติฝรั่งเศสขึ้นสู่ยอดเสาแทน ทหารฝรั่งเศสเป่าแตรทำความเคารพนั้น บรรดาข้าราชการไทยที่ต้องไปทำพิธีอันแสนหดหู่นี้พากันน้ำตาซึม รีบหันหลังกลับลงเรือมกุฏราชกุมารกลับพระนคร โดยมีข้าราชการของจังหวัดตราดและเกาะกงอาศัยกลับเข้าพระนครด้วย